แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พุทธอุทาน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พุทธอุทาน แสดงบทความทั้งหมด
วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563
วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
Bangkok story
ป้ายกำกับ:
ชวนคิดชวนคุย,
พุทธทาส,
พุทธอุทาน,
มหายาน,
วิทยุ,
bangkok,
chainatown,
dhamma,
yaowarat
ดาบสสอนบุตร
ป้ายกำกับ:
เจ้าดำ,
ชวนคิดชวนคุย,
พุทธทาส,
พุทธอุทาน,
มหายาน,
วิทยุ,
bangkok,
chainatown,
dhamma,
yaowarat
ตำแหน่ง:
ถนน เยาวราช กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562
ชีวิตคือความท้าทาย
ถ้าเราท้าทายกับการปฏิวัติชีวิตมนุษย์ของเรา ด้วยความเชื่อมั่นว่า เราจะได้รับชัยชนะในชีวิตในที่สุด เราจะสามารถขยายสภาพชีวิตของเราได้อย่างกว้างใหญ่ เราจะได้รับสภาพชีวิตแห่งอิสระที่ไม่มีขอบเขตจำกัดซึ่งจะทำให้เราโอบอุ้มความยากลำบากและความเศร้าโศกทั้งหลายได้ราวกับมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่เวลาจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน เมื่อความสำคัญของประสบการณ์ทั้งหลายของเราปรากฏชัดออกมา ด้วยเหตุผลดังกล่าว สิ่งสำคัญคือเราต้องยังคงมุ่งหน้าต่อไปบนพื้นฐานของความไม่ประมาท
บทความที่เขียนขึ้นนี้เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ที่กำลังท้อแท้หรือหมดหวังในชีวิตโดยการนำเสนอบทความนี้จะประมวลนำเอาประสบการของตนเองบ้าง - คนรอบข้างบ้างนำมาเรียบเรียงและรวบรวมเป็นหมวดหมู่หรือว่าหัวข้อชวนคิด - ชวนคุย หวังว่าจะได้สาระบ้างไม่มากก็น้อย.....Sgi International Association
วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2561
บันทึกธรรม
ป้ายกำกับ:
เจ้าดำ,
ชวนคิดชวนคุย,
พุทธอุทาน,
มหายาน,
วิทยุ,
bangkok,
chainatown,
dhamma,
yaowarat
สัทธรรมปรุณฑริกสูตร
ตำแหน่ง:
ถนน วิทยุ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561
วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561
รู้เตือนตน
ป้ายกำกับ:
ชวนคิดชวนคุย,
แปะกิมโคย,
พุทธอุทาน,
มหายาน,
วิทยุ
ตำแหน่ง:
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2561
วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
เรื่องวันขึ้นปีใหม่
พระพุทธะ อาศัยอยู่ในจิตใจของเรา ตัวอย่างเช่น หินเหล็กไฟสามารถก่อให้เกิดไฟ และอัญมณีมีค่าในตัวมันเอง พวกเรามนุษย์ปุถุชนไม่สามารถมองเห็นทั้งขนตาที่อยู่ใกล้ หรือสวรรค์ที่อยู่ไกล เช่นเดียวกัน เราไม่สามารถมองเห็นว่าพระพุทธะมีอยู่ในจิตใจของเราเอง
ผู้ที่ลงมือเพียรพยายามอย่างแน่วแน่ต่อไปนั้น ยอดเยี่ยมที่สุด และน่าเคารพ ในขณะที่การก่อสร้าง ต้องใช้การต่อสู้อย่างสุดกำลัง แต่การทำลาย ทำได้ทันที จงอย่าให้ความชั่วร้ายใดๆ มาเข้าใกล้ และก้าวหน้าไปบนหนทางแห่งเกียรติยศอย่างแข็งขัน
คำว่า ธรรม คำเดียว ครอบคลุมโลกทั้งโลก จักรวาลทั้งหมด และคำสอนทั้งหมดของพระพุทธศาสนา ถ้าเข้าใจคำว่า ธรรม ว่าหมายความถึงสิ่งที่มีจริง และสิ่งนั้นก็ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร จึงเป็นธรรม เพราะฉะนั้นในขณะนี้ถ้าเข้าใจธรรมแล้ว ก็จะรู้ว่าไม่มีอะไรเลยซึ่งไม่ใช่ธรรม เสียงก็เป็นธรรมชนิดหนึ่ง เพราะเหตุว่าเป็นของจริงที่เกิดขึ้นปรากฏให้พิสูจน์ได้ว่ามีจริง เพราะฉะนั้นสิ่งที่มีจริงนั้น ใครจะเรียกว่า ธรรม หรือไม่เรียกว่า ธรรม แต่ลักษณะสภาพนั้นก็เป็นธรรม
ธรรมนิพนธ์ประจำวันที่ 27กุมภาพันธ์ 2018
วันพุธที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
Wake - up Sermon

ปรากฏการณ์ทั้งหลายล้วนเป็นมายาจงอย่ายึดติดในปรากฏการณ์ใด ๆ เลย แล้วจิตเธอจะเป็นหนึ่งเดียวกับพุทธะแต่เมื่อเธอเข้าใจ ความผิด ความผิดก็ไม่ใช่ความผิดเพราะว่าความผิดมิได้มีอยู่จริง พระสูตรกล่าวว่าไม่มีสิ่งใดที่มีธรรมชาติเฉพาะของมันเองจงกระทำโดยไม่ต้องลังเล - สงสัยความผิดเป็นผลของความสงสัย เมื่อเธอเข้าใจเช่นนั้นการกระทำที่ผิดพลาดของ เธอในอดีตก็ถูกลบล้างไปหมด เมื่อเธอหลงความรู้สึกสัมผัสทั้ง 6 และขันธุ์ทั้ง 5 ก็ประกอบไปด้วยความทุกข์และความตาย ต่อเมื่อเธอตื่นแจ้งขึ้นความรู้สึกสัมผัสทั้ง 6 และขันธุ์ 5 ก็ประกอบไปด้วยนิพพานและความไม่ตายบุคคล ที่กำลังหาทางจะไม่มองข้ามตนเองเขารู้ว่า จิต นั่นแหละคือทาง ๆ นั้นแต่เมื่อเขาพบ จิต เขากลับไม่ได้พบอะไรเลยและเมื่อเขาพบทางเขากลับไม่ได้พบอะไรเลยเช่นกัน หากเธอคิดว่าเธอสามารถใช้จิตค้นหาทางได้เธอกำลังหลงแม้แต่.เธอกำลังหลงความเป็นพุทธภาวะก็ยังคงมีอยู่กับเธอ แต่เมื่อเธอตื่นรู้พุทธะภาวะกลับมิได้จำเป็น
ต้องมีอยู่นี่ก็เพราะว่าความ ตื่นรู้คือพุทธะภาวะภายในตัวมันเอง ถ้าเธอมองหาทาง ๆ นั้นจะไม่ปรากฏจนกว่ารูปกายของเธอจะหายไปมันคล้ายกับการปลอกเปลือกต้นไม้นั่นเอง รูปกายแห่งกรรมนี้อยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลามันมิได้มีความจริงแท้แน่นอน การปฏิบัติอยู่ตรงความคิดเห็นอันหลายหลากของเธอนั่นเองจงอย่าได้เกลียดชีวิตและความตายหรือรักในชีวิตและความตายรักษาทุก ๆ ความคิดของเธอให้ปราศจากความหลงและในชีวิตของเธอจะประจักษ์แจ้งต่อนิพพานและ ในความตายเธอจะประสบ
ความมั่นใจต่อความไม่เกิดอีกการได้เห็นรูปแต่ไม่แปดเปื้อนด้วยรูป การได้ยินเสียงแต่ไม่แปดเปื้อด้วยการได้ยินเสียง คือ ความหลุดพ้น ตาที่ไม่ยึดติดในรูปคือประตูแห่ง Zen หูที่ไม่ยึดติดในเสียงก็คือประตูแห่ง Zen ว่าโดยสรุป ผู้ที่รับรู้ในการมีอยู่และเข้าใจปรากฏการณ์โดยไม่ยึดติดกับมันคือผู้หลุด พ้นบุคคลที่รับรู้ปรากฏการณ์แต่เพียงภายนอก โดยมิได้เข้าใจถึงธรรมชาติที่แท้ของมันก็จะหลงเข้าไปจมแช่อยู่ในปรากฏการณ์ นั้นการไม่ยึดติดจมอยู่ในปรากฏการณ์แห่งทุกข์คือความหมายของการหลุดพ้น มันมิได้มีความหลุดพ้นอื่นอีกเมื่อเธอรู้ว่าจะรับรู้รูปอย่างไร รูปก็จะไม่ปรุงจิต จิตก็จะไม่ปรุงรูปรูป และจิตก็ยังคง
ความบริสุทธิ์อยู่เช่นเดิม เมื่อความหลงหายไป จิตคือ ดินแดนแห่งพุทธะเมื่อความหลงปรากฏขึ้นอีก พลันจิตก็กลายเป็นแดนนรกปุถุชน มักสร้างความหลงโดยการใช้ จิต ทำให้จิต เกิดเขาก็จะพบตัวเองอยู่ในแดนนรก โพธิสัตว์ทั้งหลายเห็นแจ้งในความหลงและไม่ใช้จิต ทำให้จิตเกิดเขาก็จะพบตัวเองอยู่ในดินแดนพุทธะเสมอถ้าหากเธอไม่ใช้ จิต สร้างจิต ทุก ๆ สภาวะก็ล้วนว่างเปล่าและทุก ๆ ความคิดก็จะสงบนิ่ง เธอก็จะไม่เคลื่อนจากแดนพุทธะหนึ่งไปสู่อีกแดนหนึ่ง แต่ถ้าหากเธอใช้จิตของเธอสร้างจิตทุก ๆ สภาวะจิตก็จะถูกรบกวนและทุก ๆ ความคิดจะเคลื่อนไหววุ่นวายเธอก็จะเคลื่อนจากแดนนรกหนึ่งไปสู่อีกแดนนรก หนึ่ง เมื่อความคิดเกิดขึ้นมันก็มีกรรมดี และ กรรมชั่ว มีสวรรค์ และ มีนรกต่อเมื่อไม่มีความคิดเกิดขึ้น
มันก็ไม่มีกรรมดีและกรรมชั่วไม่มีนรกและ สวรรค์ ร่างกายไม่ใช่เป็นสิ่งมีอยู่หรือไม่มีอยู่ ดังนั้นการมีอยู่เหมือนกับปุถุชนและการไม่มีอยู่เหมือนเช่นปราชญ์คือบทสรุป ที่ว่าผู้รู้ทั้งหลายย่อมมิต้องกระทำอะไร ใจของเขาว่างเปล่าและกว้างขวางดุจท้องฟ้านั่นคือบุคคลที่อยู่ในพุทธมรรคอย่าง สมบูรณ์ ย่อมอยู่นอกเหนือความเป็นอรหันต์หรือปุถุชน เมื่อจิตถึงนิพพานเธอจะไม่เห็นนิพพานเพราะจิตนั่นคือนิพพาน หาก
เธอเห็นนิพพานในที่ใดที่หนึ่งนอกจิต เธอกำลังหลอกตัวเอง ทุก ๆ ความทุกข์คือเมล็ดพันธุ์แห่งพุทธะเพราะว่าความทุกช่วยผลักดันให้ปุถุชนเกิด ปัญญา แต่เธอสามารถ กล่าวได้เพียงว่าความทุกข์ให้กำเนิดพุทธภาวะเธอไม่สามารถกล่าว ว่าความทุกข์คือคือพุทธภาวะ กายและจิตของเธอคือผืนดิน ความทุกข์คือเมล็ดพันธุ์ ปัญญาคือลำต้นและพุทธภาวะคือหมากผล พุทธะในจิตคล้ายกับกลิ่นหอมของต้นไม้พุทธะมาจากจิตที่ปราศจากความทุกข์ เฉกเช่นกลิ่นหอมของต้นไม้ที่ปราศจากโคลนตม มันไม่มีกลิ่นหอมที่
ปราศจากต้นไม้และไม่มีพุทธะที่ปราศจาก จิต ถ้าหากว่ามันมีกลิ่นหอมที่ปราศจากต้นไม้ มันก็เป็นกลิ่นหอมที่แตกต่างกันออกไปถ้าหากมันมีพุทธะที่ปราศจากจิตมันก็ เป็นพุทธะที่แตกต่างกันออกไปเมื่อพิษทั้ง 3 เกิดขึ้นในจิตใจของเธอ เธอกำลังอาศัยอยู่ในดนแดนสกปรก เมื่อพิษทั้ง 3 อันตรธานไป จากจิตของเธอเธอกำลังอาศัยอยู่ในดิน แดนบริสุทธิ์ พระสูตรกล่าวไว้ว่าถมแผ่นดินด้วยสิ่งสกปรกและขยะหมายถึงโลภ โกรธ หลง พุทธะหมายถึงความบริสุทธิ์และจิตผู้ตื่นรู้มันไม่มีภาษาที่ไม่ใช่ธรรมการพูด ตลอดทั้ง
วันโดยมิกล่าวอะไรคือทาง ๆ นั้นการอยู่เงียบ ๆ ตลอดทั้งวันแต่ยังคงกล่าวหลายสิ่งหลายอย่างย่อมไม่ใช่ทาง ดังนั้นมันมิใช่คำพูดของตถาคตขึ้นอยู่กับความเงียบหรือความเงียบของท่านขึ้น อยู่กับคำพูดหรือว่ามีอยู่หากจากความเงียบของท่านบุคคลที่เข้าใจแจ้งชัดทั้ง คำพูดและความเงียบคือผู้อยู่ในสมาธิถ้าเธอพูดโดยเธอรู้อยู่คำพูดของเธอนั้น เป็นอิสระ ถ้าเธอเงียบเฉย โดยเธอไม่รู้ความเงียบของเธอได้ถูกมัดตรึง ถ้าคำพูดกับปรากฏการณ์มันเป็นอิสระถ้าความเงียบเฉยยึดติดกับปรากฏการณ์ มัน ก็ถูกยึดตรึงไว้ ภาษา
โดยเนื้อแท้แล้วมันเป็นอิสระมันไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับการยึดติดและการยึด ติดก็ไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับภาษา สัจจะความจริงไม่มีสูงและไม่มีต่ำหากเห็นว่ามันสูงมันต่ำมันก็มิใช่ความจริงแพนั้นไม่ใช่สิ่งจริงแต่ผู้โดยสารตะหากเป็นสิ่งจริงบุคคลที่โดยสารแพสามารถข้า สิ่งไม่จริงนั่นคือสาเหตุว่ามันจริง ในโลกมีทั้งผู้หญิง - ผู้ชาย เศรษฐีและคนยากจนแต่ในทาง ๆ นี้มันมิได้มีผู้หญิง - ผู้ชาย มิได้มีเศรษฐีหรือคนยากจนแม้นเมื่อเทพธิดาได้เห็นประจักษ์ในทางเธอไม่ได้ เปลี่ยเพศของเธอเมื่อเด็กชายธรรมดาตื่น
แจ้งต่อความจริงเขามิได้เปลี่ยนสถานะความเป็นเด็กของเขา เมื่ออิสระจากเพศและสถานะเขาทั้งหลายก็มีพื้นฐานลักษณะเดียวกัน เทพธิดาน้อยใช้เวลา 12 ปีเพื่อค้นหาความเป็นผู้ใหญ่แต่มิได้ผลสำเร็จการใช้เวลาค้นหาถึง 12 ปีสำหรับผู้ชายก็มิได้มิผลสำเร็จเช่นกัน 12 ปีนี้หมายถึงการเข้าถึง 12 ทาง (อาย ตะนะภายนอกและภายใน) เมื่อปราศจากจิตก็ไม่มีพุทธะเมื่อปราศจากพุทธะก็ไม่มีจิตเช่นเดียวกันเมื่อ ปราศจากน้ำก็ไม่มีน้ำแข็งเมื่อปราศจากน้ำแข็งก็ไม่มีน้ำเช่นเดียวกัน ใครก็ตามที่ยังบอกให้หนีหรือกำจัด
สภาวะของจิต เขาก็ยังไปไม่ถึงไหน จงอย่ายึดติดกับปรากฏการณ์ใด ๆ ของ จิต
การฟังธรรมด้วยความตั้งใจเป็นการเคารพพระธรรม การฟังธรรมเสมอ ๆ ความเข้าใจย่อมสะสมไปในภพหน้า ความถือตัว คือ มานะ ขณะมีมานะ ขาดความเมตตา ความเมตตาเจริญขึ้นเท่าไรความโกรธยิ่งน้อยลง เราต้องกรุณาแม้ความเห็นผิดของผู้อื่น
หมายเหตุ.........พิมพ์คัดลอกจากหนังสือคำสอน ดุจดังกระแสโลหิด
ตำแหน่ง:
ซอย พิพัฒน์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2560
Ghost 2011

พูดถึงเรื่องผี หรือเรื่องลี้ลับที่ทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้นั้นมีทุกชนชาติและทุกภาษาแตกต่างกันออกไป เรื่องทั้งหลายจะมีจริงหรือไม่กำลังรอการพิสูจน์
มีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้กับผู้เขียนเมื่อวันจันทร์ที่ 27 มิถนายน 2011 เวลาประมาณบ่าย 2 โมงกว่า ๆ ผมเจอโอปปาติกะ ตอนกลางวันกล่าวกันว่าถ้าขณะใดจิตเรานิ่งพอแล้วอาจสัมผัสได้ถึงสิ่งลี้ลับวันดังกล่าวผมนั่งโพสกระทู้อยู่คนเดียวในบ้านซึ่งบ้านของผมนั้นเป็นลักษณะคอนโดมิเนียมปิดประตูเรียบร้อยมิดชิดตลอดเวลาและในวันนั้นผมก็ได้ได้ยินเสียงมาคนมารื้อข้าวของใกล้ ๆ กับคอมพิวเตอร์ที่ผมนั่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 1 เมตรผมก็สงสัยว่าเสียงอะไรเดินไป
ดูข้าวของก็อยู่เรียบร้อยปกติไม่มีร่องรอยการถูกรื้อค้นแต่ประการใดผมก็เปิดประตูบ้านเจอเลยเป็นเด็กสาววัยรุ่นใส่เสื้อสีเหลืองกางเกงวอร์มเหมือนชุดเล่นกีฬาบอกว่าพี่หนูเอาไม้กวาดมาคืนผมก็นึกว่าคืนผิดห้องก็เลยรับไม้กวาดเอาไว้อย่างงง ๆ แล้วมานึกดูว่าผมมีไม้กวาดใหม่ ๆ อยู่อันหนึ่งยังไม่ได้ใช้เก็บไว้ในซอกที่วางของ พอนึกขึ้นได้ผมก็เดินไปดูว่าไม้กวาดอยู่หรือเปล่า ปรากฏว่าไม้กวาดที่เก็บเอาไว้ไม่อยู่แล้วแสดงว่า ไม้กวาดที่เด็กสาวคนนั้น
เอามาคืนผมก็เป็นไม้กวาดของผมเองไม่ได้คืนผิดห้องหรือคืนผิดคนต่อมาผมจึงจุดธูปบอกว่าน้องเป็นโอปปากิกะหรือเปล่า ? ถ้าเป็นวิญญาณก็ขอให้มาดี มีเรื่องจะคุยด้วยแต่ก็เงียบมีแต่เสียงทุบประตูบ้าง เคาะโน่น เคาะนี่บ้างมากวนใจเล่น ๆ ซ่ะงั้นผมอยู่กับเสียงปริศนามาหลายปีถามคนอื่นเค้าก็บอกว่าได้ยินเหมือนกันแต่ไม่ได้สนใจงั้นก็แสดงว่า
หูของผมฟังไม่ผิดแล้วก็ไม่ได้ตาฝาดเด็กสาวคนนั้นเอาไม้กวาดมาคืนจริง ๆ แล้วเค้ารู้ได้อย่างไรว่าบ้านของผมมีไม้กวาด แล้วไม้กวาดก็เก็บไว้ในซอกอย่างมิดชิดกะว่าอันที่ใช้อยู่เสียจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ไม่ได้นึกว่าจะเจอกับตัวเองเพราะผมไม่ได้ไปสวดมนต์นานแล้วเหมือนกันประมาณ 1 เดือนเห็นจะได้ผมจุดธูปบอกเขาก็ไม่มาหารอตั้งหลายวันแล้วผมคิดว่าถ้ามาก็ขอให้มาดีมีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ไม่ต้องเกรงใจหรอกจากวันนั้นเป็นต้นมาก็ไม่เคยเจอเด็กสาวคนนี้อีกเลย
ถ้าทำดีจะเคราะห์ร้ายหรือ เพราะฉะนั้น เมื่อเคราะห์ร้ายเกิดจากการทำไม่ดี ก็ทำดีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีเคราะห์ร้ายต่อไป ไม่ดีหรือ ?
วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ชวนคิดปฏิวัติชีวิต
สวัสดีครับ พบกับ 時々๛༢༠༡༦ कभी कभी 一 อีกเช่นเคยในคอลัมท์ ชวนคิด - ชวนคุย - ชวนลุยเดอะซีรี่ย์วัน - เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วน่ะครับสงกรานต์ประจำปี 2559 ได้ผ่านไปแล้วและในขณะเดียว กันประเทศญี่ปุ่นก็เกิดแผ่นดินไหวและมี aftershock ตามมายังไม่ทราบยอดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บและในขณะเดียวกันเทศกาลสงกรานต์ก็มีอุบัติเหตุทำให้คนล้มตายเป็นจำนวนมากในแต่ละปีบางคนอาจคิดว่าพูดถึงความตายอีกแล้วเจอหน้าทีไรพูดถึงเรื่องความตายทุกทีการที่พูดถึงความตายไม่ใช่สิ่งอัปมงคลแต่อย่างใดตรงกันทำให้เรามีสติตั้งมั่นอยู่ในควาไม่ประมาทเราควรจะคิดเช่นนี้จึงจะถูกต้อง
ไม่ควรที่จะหมกมุ่น เพลิดเพลิน มัวเมาในความเป็นหนุ่มสาวจนกระทั่งไม่คิดถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นสาระในชีวิตเพราะเหตุว่าถ้าจะให้รอไปจนถึงแก่เฒ่าเสียก่อน แล้วจึงจะศึกษาพระธรรมหรือเจริญกุศลเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน ๆ นั้น ก็จะเป็นการเพิ่มพูนกิเลสให้ยิ่งขึ้น ทำให้การละคลายขัดเกลากิเลสยิ่งยากขึ้น ความตายใกล้ที่สุด อาจจะเกิดขึ้นขณะหนึ่งขณะใดได้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นผู้ที่ประมาทมัวเมา ไม่คิดถึงว่า จะต้องเป็นผู้ที่จะถึงแก่ความตายจะเร็วหรือช้าก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ถ้าไม่ระลึกอย่างนี้
บ้างเลย วันหนึ่ง ๆ ก็ผ่านไปโดยการที่ท่านไม่ได้อบรมเจริญกุศลให้ยิ่งขึ้น เพราะเหตุว่าเรื่องของอกุศลจิตนี้มีปัจจัยพร้อมที่จะเกิดอยู่เสมอ แต่เรื่องของกุศลนาน ๆ ก็จะมีโอกาสมีปัจจัยที่จะเกิดขึ้น วันหนึ่ง ๆ อยู่ไปอย่างไรก่อนที่จะตายจากโลกนี้ คือ ทุกคนเกิดมาแล้วตายไม่ได้ ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่จะตาย ใครจะทำให้ตายก็ตายไม่ได้ เพราะเหตุว่าจุติจิตเป็นผลของกรรมจุติจิตเป็นวิบากจิต เพราะฉะนั้นคนที่เกิดมาแล้วก็ต้องอยู่ไป แต่ว่าการอยู่ไปแต่ละวัน ๆ จะอยู่ไปอย่างไรก่อนที่จะตายจากโลกนี้ เราควรใช้ชีวิตของเรา ด้วยท่าทีอย่างไรและจบลงอย่างไร เราอาจถามคำถามนี้กับตัวเราเองบ่อย ๆ จุดที่เราควรตระหนักรู้ ภาระหน้าที่เฉพาะเพื่อขัดเกลา ชีวิตของเรา คือ เวลาที่มีขีดจำกัดที่จะอยู่บนโลกใบนี้
เซียนแปะ
วันนี้ 30 November 2017 ตั้งใจว่าจะ Relax ซ่ะหน่อยก็เลยเดินออกกำลังกายไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาเดิน 6 - 8 ชั่วโมงไปถึงท่ามหาราชใกล้ ๆ ท่าพระจันทร์เดินดูของไปเรื่อย ๆ ก็เห็นมีหลายร้านที่มีขายลอคเก็ต ของอาแปะ โง้วกิมโคย ราคาแต่ละร้านไม่เท่ากันรูปถ่ายของอาแปะก็มี ราคา 100 บาท ต่ำสุด 30 บาทในเว็บ ฯ นักเล่นพระขายกัน 10,000 กว่าบาทก็มีแต่ผมไปได้เหรียญของอาแปะรุ่น 1 มาราคา 20 บาทถูกอย่างเหลือเชื่อเพราะเป็นของเก๊ ความจริงแล้วผมตั้งใจจะไปซื้ออาหาร เจ เพราะว่าตอนกลางวันผมกินข้าวต้มร้อน ๆ มีเต้าฮู้ยี้แล้วก็หนำเลี้ยบอร่อยอย่าบอกใครเชียวได้เหรียญของอาแปะ โง้วกิมโคยมาในราคา 20 บาทเผื่อว่าอาแปะโง้วกิมโคยจะคุ้มครองบ้างให้อยู่รอดปลอดภัยจาก(ภัย)อันตรายที่เกิดจากน้ำมือคนชั่ว
ประวัติของอาแปะ โง้วกิมโคย
ลอคเก็ตหินรุ่นแรก รูปไข่ เซียนแปะโรงสี(อ.โง้วกิมโคย) ท่านอาจารย์โง้วกิมโคย (แปะโรงสี)จอซัวแปะ นาย กิมเคย แซ่โง้ว เกิดที่ประเทศจีน ตำบลเท้งไฮ้ ได้เข้ามาประเทศไทย ตั้งแต่เด็ก อายุประมาณ 10 ปีเมื่อเติบโตพอที่จะประกอบอาชีพได้ ก็ได้รับจ้างทั่วไปรวมทั้งค้าข้าวเปลือก กิจการค้าข้าวเปลือกดีขึ้น จึงได้ร่วมหุ้นทำกิจการโรงสีข้าวที่ปากคลองบางโพธิ์ล่าง ปัจจุบันเป็นตำบลบางเดื่อ จังหวัดปทุมธานี และเมื่ออายุประมาณ 22 ปี ได้สมรสกับนาง นวลศรี เอี่ยมเข่ง มีบุตรด้วยกัน 10 คนคือ
1. นายเซียมจึง สมบูรณ์ธีระ
2. เสียชีวิตตอนเด็ก
3. นายธนิศ ทองศิริ
4. เสียชีวิตตอนเด็ก
5. นางยุพา แซ่แต้
6. นายรัตน์ ทองศิริ
7. นางยุพิน ภิญโญชีพ
8. เสียชีวิตตอนเด็ก
9. เสียชีวิตตอนเด็ก
10. นางยุวดี ทองคำปั้น พร้อมทั้งได้ย้ายมาประกอบกิจการโรงสีไฟของตนเอง ที่ปากคลองเชียงรากเยื้อง ๆ กับวัดศาลเจ้า โรงสีตั้งอยู่บนตำบลบางกะดี ในนามของ โรงสีไฟทองศิริ และได้โอนสัญชาติไทย พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น นายนที ทองศิริกิจการโรงสีดีขึ้น และมั่นคงขึ้นมาก เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เรียกขนานนามท่านว่า เถ้าแก่กิมโคย หรือ แปะกิมโคย แม้ว่าท่านจะเป็นคนจีนดั้งเดิมแต่ท่านก็ชอบทานหมากพลู เช่นชาวไทยทั่วไปในยุคนั้นหน้าวัดศาลเจ้า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กระแสน้ำเชี่ยว และเป็นวังวนมีศาลเจ้าไม้เล็กๆอยู่(ตามประวัติศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า) ซึ่งชาวบ้าน เรียกว่า ศาลเจ้าพ่อปู่ ชาวจีนเรียกว่า ปึงเถ่ากงม่า เมื่อท่านมีเวลาจะมาบูรณะ และคลุกคลีอยู่ที่ศาลเจ้าเป็นประจำ เนื่องจากท่านเป็นคนชอบช่วย
เหลือคน ชอบทักทาย และชี้แนะให้ทุกคนประกอบแต่ความดี เป็นที่เคารพและศรัทธาของผู้คนทั่วไปในช่วงนั้นการคมนาคมยังไม่สะดวก ส่วนใหญ่การเดินทางจะเป็นทางน้ำ การบูรณะศาลเจ้าพ่อศาลเจ้าจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ท่านก็ได้ดำเนินการอย่างไม่หยุดหย่อน และได้ใช้การพายเรือไปช่วยเหลือผู้คนตามสถานที่ต่างๆ จึงมีผู้มีจิตศรัทธาช่วยท่านให้สามารถบูรณะศาลเจ้าพ่อศาลเจ้าไม้เล็ก ๆ ริมน้ำมาเป็นศาลเจ้าที่เป็นเรือนไม้ขนาดใหญ่ได้นอกจากการบูรณะศาลเจ้าแล้ว ท่านยังเป็นผู้กำหนดวันในการจัดงานประจำปีของศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าเป็นวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 1 ถึงวันขึ้น 8 ค่ำเดือน1 รวม 4 วัน 4 คืน ซึ่งทางชาวจีนเรียกช่วงนี้ว่า เจียง่วย ชิวโหงว ถึง เจียง่วย ชิวโป้ย และถือเป็นประเพณีตลอดมาในการจัดงานประจำปี บางปีจะมีลมฝนมืดครึ้มคาดคะเนกันว่าจะมีพายุใหญ่ ท่านก็จะจุดธูปเพื่อปัดเป่าลม
ฝนไป ซึ่งฝนก็จะไม่ตก ท้องฟ้าแจ่มใส ผู้คนที่พบเห็นแจ้งว่าท่านอยู่ ระหว่าง เข้าทรงโดยเชื่อว่าท่านมีองค์ประทับอยู่ และยังเชื่อกันอีกว่าองค์ที่ประทับอยู่นั้นเป็นเจ้าพ่อปู่ของศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้านั่นเอง เมื่อผู้คนที่มีความเชื่อมั่นและศรัทธา ขยายวง กล่าวออกไปในหมู่พ่อค้าทุก ๆ วงการค้า ทำให้ท่านมีศิษย์มากขึ้นและต่างเรียกท่านว่า หวยลั้งเซียนเมื่อการคมนาคมสะดวกขึ้น ผู้ที่ศรัทธาท่านจากแหล่งต่าง ๆ มาพบท่านและให้ท่านช่วยเหลือ ชี้แนะเกี่ยวกับฮวงจุ้ย ที่ตั้งบริษัท บ้าน ห้างร้าน และดูทำเลที่ตั้งฮวงซุ๊ยของบรรพบุรุษ ท่านก็ไปให้คำแนะนำ และชี้แนะทุกรายไป แม้กระทั่งไปยังต่างประเทศ ท่านก็ยังขึ้นเครื่องบินไปตามคำร้องขอซึ่งต้องจัดเตรียม หมากพลูไปด้วย ท่านช่วยเหลือบรรดาศิษย์ทุก ๆ ท่าน โดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย และไม่มีค่าตอบแทนใดๆ ผู้ที่ท่านชี้แนะมักประสพความสำเร็จในธุรกิจ กิจการรุ่งเรื่องเป็นที่รู้จักในวงการค้าทั่วไป พร้อมทั้งบอกเล่าต่อๆกันไปผู้ที่เคารพศรัทธาเรียกท่านว่า อาแปะ พร้อม
ทั้งขนานนามท่านว่า เซียนแปะ จนกระทั่งทุกวันนี้เมื่อประมาณปี พ.ศ.2518 ท่านได้ก่อสร้องตึกศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าใหม่ โดยปรับปรุงจากเรือนไม้เป็นอาคาร 8 เหลี่ยมทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ที่ ศรัทธาท่านและศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย ทุกๆวงการรวมทั้งบุตรหลานในครอบครัวของท่าน โดยใช้เงินในการก่อสร้างกว่า 7 แสนบาท ก่อสร้างเสร็จเมื่อต้นปี พ.ศ.2519 พร้อมทั้งทำพิธีเปิดในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2519เซียนแปะ เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายผ่ายผอมลง หลังโค้งงอ แต่ก็ยังคงช่วยเหลือชี้แนะบรรดาศิษย์และผู้คนทั่วไปโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เช่นที่เคยปฏิบัติมาตลอด อย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนเป็นที่
เคารพรักของบรรดาศิษย์ทุกคน จนกระทั่งอายุ 85 ปี เมื่อปลายปี พ.ศ.2525 ท่านเริ่มมีอาการอ่อนเพลียจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไทจนถึงเวลา 05.30 น.ของเช้าวันที่ 16 มกราคม 2526 ท่านก็ได้จบชีวิตลง จากครอบครัว และบรรดาศิษย์ทุกคนไปด้วยความสงบ นับเป็นการสูญเสียที่ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ หลังจากเสร็จพิธีงานศพท่าน บรรดาศิษย์ และครอบครัว ได้ทำการก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์ไว้ที่หลังศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าโดยใช้ชื่อว่า ศาลานทีทองศิริ พร้อมทั้งตั้งรูปปั้นจำลองขนาดเท่าตัวจริง เพื่อไว้ให้เป็นที่สักการะ และเป็นที่พึ่งทางจิตใจแก่บรรดาศิษย์และผู้คนทั่วไป
วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559
พุทธอุทาน
>
บัณฑิตในโลกนี้เมื่อยังมีความบากบั่นอยู่ควรละเว้นบาปทุกอย่างเหมือนคนตาดีละเว้นทางขรุขระฉะนั้น
ภิกษุผู้มีจิตสงบ และระงับกิเลสได้ ตัดปัญหา ที่นำไปสู่ภพได้ มีชาติสงสารสิ้นแล้ว ชื่อว่า เป็นผู้หลุดพ้น จากเครื่องผูก แห่งมารความสงสัยเหล่าใดเหล่าหนึ่งที่มีในอัตภาพนี้ หรือในอัตภาพอื่นที่มีในความรู้ของตนหรือในความรู้ของผู้อื่นบุคคลผู้เพ่งพินิจมีความเพียรประพฤติพรหมจรรย์อยู่ย่อมละเว้นความสงสัยเหล่านั้นทั้งหมด
พุทธอุทาน
บุคคลผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่โดยไม่เดือดร้อน
ในเวลาจวนจะตายก็ไม่โศกเศร้า ชื่อว่า พบนิพพานแล้วเป็นปราชญ์แม้จะอยู่ท่ามกลาง คนที่เศร้าโศก ก็ไม่่โศกเศร้าภิกษุ พูดตัดภวตัณหา ได้เด็ดขาด มีจิตสงบ มีชาติสงสารสิ้นแล้ว เธอย่อมไม่มีภพใหม่
ในเวลาจวนจะตายก็ไม่โศกเศร้า ชื่อว่า พบนิพพานแล้วเป็นปราชญ์แม้จะอยู่ท่ามกลาง คนที่เศร้าโศก ก็ไม่่โศกเศร้าภิกษุ พูดตัดภวตัณหา ได้เด็ดขาด มีจิตสงบ มีชาติสงสารสิ้นแล้ว เธอย่อมไม่มีภพใหม่
ป้ายกำกับ:
เจ้าดำ,
ชวนคิดชวนคุย,
พุทธทาส,
พุทธอุทาน,
มหายาน,
วิทยุ,
bangkok,
chainatown,
dhamma,
yaowarat
ตำแหน่ง:
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)